นาฬิกาข้อมือแห่งชัยชนะ

เท่าที่จำได้ นาฬิกาแบรนด์เนมจากเกาะอังกฤษที่เน้นธีมทหาร การบินและการเดินเรืออย่าง Bremont และครั้งนี้ก็จะเป็นครั้งหนึ่งที่กองทัพนาฬิกาข้อมือเรือนงามจากแบรนด์นี้จะมาประกาศศักดา  และความทรงคุณค่าให้กับเหล่าผู้อ่านและคอลเลคเตอร์ได้ประจักษ์สายตากันอีกครั้ง

นาฬิกาแบรนด์ Bremont Watch Company เป็นบริษัทที่รวบรวมช่างนาฬิการะดับมาสเตอร์จากสหราชอาณาจักรเข้าไว้ด้วยกันมากที่สุดแห่งหนึ่ง  จึงไม่น่าแปลกใจที่ทำให้แบรนด์ Bremont เป็นที่รู้จักในเรื่องกลไกที่ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม  คุณภาพอันเป็นที่ยอมรับนั้นมีมากพอที่จะทำให้พวกเขากล้าที่จะย้ายการทำโปรดักชั่นจากสวิตเซอร์แลนด์มาอยู่ที่ลอนดอน  พร้อมกับสถานะของแบรนด์ที่เป็นหนึ่งในเรื่องความเชี่ยวชาญเชิงวิศวกรรมนาฬิกาข้อมือจากประเทศอังกฤษ  นาฬิกาแต่ละเรือนจะได้รับการทดสอบอย่างเข้มงวด  วัสดุที่ใช้ทำตัวเรือนอย่างสตีลก็มีความแข็งแรงคงทนกว่าสตีลอื่นๆ ทั่วไปถึง 9 เท่า  กระจกคริสตัลแซฟไฟร์ที่ใช้ในนาฬิกาบางรุ่น อาทิ MBII เคลือบสารกันสะท้อนไว้ถึง 9 ชั้น  รองรับแรงสั่นสะเทือนได้อย่างสบายเทียบเท่ากับเวลาที่ไพล็อทดีดตัวฉุกเฉินออกจากเครื่องบิน  นี่ยังไม่นับรวมนาฬิกาข้อมือแบบลิมิเต็ดอิดิชั่นอีกหลายรุ่นที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเครื่องบินรบในสมัยสงครามดลกครั้งที่ 2 แถมยังเอาชิ้นส่วนจากเครื่องบินเหล่านั้นมาเป็นส่วนประกอบภายในเรือนนาฬิกาอีกด้วย
ต้นกำเนิดของนาฬิกาแบรนด์ Bremont เกิดจาก Nick และ Giles English คู่พี่น้องชาวอังกฤษ Euan พ่อของพวกเขาจบจากเคมเบริดจ์และได้มาเป็นวิศวกร มีเวิร์คช็อปที่เต็มไปด้วยเครื่องไม้เครื่องมือ นาฬิกาปลุกและอุปกรณ์กลไกต่างๆ อยู่ที่บ้านและสิ่งเหล่านั้นทำให้เขารู้สึกตื่นตาตื่นใจ วันดีคืนดีเขาก็จะพาลูกๆ ใปยังงานเปิดท้ายขายของเก่าเพี่อซื้อนาฬิกาปลุกโบราณ หลังจากกลับมาบ้านพี่และน้องก็อดไม่ได้ที่จะแยกชิ้ส่วนนาฬิกาเหล่านั้น และลองประกอบใส่เข้าไปใหม่ดังเดิม เมื่อความชื่นชอบถึงขีดสุด พวกเขายังได้ประกอบรถยนต์เก่า เครื่องบินเก่า หรือแม้แต่สร้างเรือยอตช์ที่พวกเขาใช้เดินทางไปรอบโลก

การผจญภัยสำหรับครอบครัวนี้เป็นสิ่งสำคัญ พ่อของ Nick และ Giles เป็นนักขับเครื่องบินผาดโผนระดับแชมป์และมักจะพาพวกเขาขึ้นไปด้วยเวลามีแสดงโชว์ในปี 1995 เกิดเหตุการณ์พลิกผันเมื่อ Euan และ Nick ได้ใช้เครื่องบินสำหรับเทรนนิ่งอย่าง 1942 Harvard ขึ้นบิน เมื่อเครื่องกำลังบินขึ้นไปนั้นเกิดเหตุขัดข้องในตัวเครื่องยนต์ทำให้ตกลงก่อนที่จะดิ่งลงสู่พื้น Nick กระเด็นออกจากตัวเครื่อง กระดูกหัก 30 ท่อน ส่วนพ่อของเขาเสียชีวิตทันที กระนั้นก็ตามหลังจากความเศร้าโศกสิ้นสุด หลังจาก Nick รักษาตัวเป็นที่เรียบร้อย Giles ผู้เป็นน้องก็ไม่ได้รีรอ เขาพา Nick กลับขึ้นไปบนท้องฟ้าอีกครั้งเพี่อตระหนักในความจริงที่ว่าพวกเขาโชคดีแคไหน และมีอิสระมากเพียงใด จากอุบัติเหตุครั้งยิ่งใหญ่ทำให้พวกเขาคิดได้ว่า ชีวิตนี้ช่างสั้นนัก พวกเขาจึงลาออกจากงานประจำเริ่มจับธุรกิจประกอบเครื่องบินเก่า และแค่นั้นยังไม่พอพวกเขาได้เริ่มสร้างแบรนด์นาฬิกาขึ้นด้วยเช่นเดียวกันในปี 2002 และออกนาฬิกาข้อมือเรือนแรกสู่สาธารณะในปี 2007 ตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นมาแบรนด์ Bremont ได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Best Emerging British Luxury Brand Award ในปี 2008, Watch Brand of the Year Award ในปี 2011 และ People’s Choice Award ในปี 2012

ส่วนชื่อแบรนด์ Bremont นั้นเกิดขึ้นจากตอนที่ทั้งคู่ขับเครื่องบินสู่เหนือน่านฟ้าแคว้นยองปาญจนิ (Champagne)ในประเทศฝรั่งเศส อยู่ดีๆ สภาพอากาศเกิดแปรปรวนทำให้ต้องพาเครื่องลงจอดฉุกเฉิน โชคดีที่เจ้าของที่ที่เครื่องบินลงนั้นเป็นนักบินเก่าสมัยสงครามโลกจึงรีบกุลีกุจอช่วยเคลื่อนย้ายไปไว้ในโรงนาก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาพบเข้า เจ้าของที่คนนั้นทำให้ Nick และ Giles นึกถึงพ่อที่ล่วงลับเพราะเวิร์คช็อปของเขานั้นเต็มไปด้วยนาฬิกาปลุกเก่าๆ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ หลังจากกลับมาคราวนั้นแทนที่พวกเขาจะตั้งชื่อแบรนด์ตามชื่อสกุลว่า ‘English’ แต่กลับตั้งชื่อว่า Bremont ตามชื่อเจ้าของที่คนนั้นที่ชื่อ Antoine Bremont

เรื่องราวของนาฬิกาแบรนด์ Bremont ที่น่าสนใจยังไม่หยุดอยู่แค่จุดกำเนิดนั้น เพราะมาในปีนี้นาฬิกาข้อมือหลากหลายรุ่นของแบรนด์สร้างกระแสร้อนเป็นที่น่าจับตามองมากกว่าเดิม และคงต้องเริ่มกันที่การร่วมมือกับพิพิธภัณฑ์แห่งชาติราชนาวี (พอร์ทสเมาธ์) The National Museum of the Royal Navy (Portsmouth) เพี่อรังสรรค์นาฬิกาข้อมือเรือนพิเศษแบบลิมิเต็ดอิดิชั่น 'Victory Watch’ โดยนาฬิกาข้อมือพร้อมฟ้งก์ชั่นเรโทรกราดแต่ละเรือนจะผลิตขึ้นจากชิ้นส่วนดั้งเดิมของเรือรบหลวง HMS Victory ซึ่งเป็นเรือจากศตวรรษที่ 18 เพียงลำเดียวที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในโลก  และยังคงเป็นเรือรบประจำการเก่าแก่ที่สุดที่ยังคงทำหน้าที่รับใช้ประเทศชาติ  สร้างขึ้นในปี 1759 และเปิดตัวในปี 1765 มีชื่อเสียงสูงสุดในฐานะเรือธงของลอร์ด เนลสัน (Lord Nelson) ณ สมรภูมิทราฟัลการ์ (Battle of Trafalgar) สงครามทางทะเลที่ปะทุขึ้นในปี 1805

HMS Victory รอดพ้นจากสงครามทราฟัลการ์และได้รับการซ่อมบำรุงครั้งใหญ่โนปี 1814 และในปี 1903 เคยเกือบต้องจมบนที่จอดเรือเพราะถูกเรือลำอื่นแล่นมาชน กระทั่งในปี 1910 สมาคมแห่งการวิจัยทางน้ำ (Society for Nautical Research) ได้ถูกก่อตั้งขึ้นและในปี 1922 เรือแห่งประวัติศาสตร์ลำนี้ได้ย้ายอขึ้นอู่เรือ ณ ท่าเรือพอร์ทสเมาธ์จนกระทั่งปัจจุบัน และได้รับการอนุรักษ์ในฐานะเรือพิพิธภัณฑ์ กระนั้นก็ตาม...ยังคงได้รับการยกย่องว่าเป็นเรือธงของพลเรือโท และเป็นเรือกองทัพนาวีอันเก่าแก่ที่สุดที่ยังคงขึ้นระวางเป็นเรือประจำการ

ล่าสุดเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ได้มีการซ่อมบำรุงครั้งสำคัญขึ้นอีกครั้ง เพี่ออนุรักษ์เรือลำนี้ไว้ชั่วลูกชั่วหลาน และเพื่อรำลึกถึง Lord Nelson และ HMS Victory ทางแบรนด์ Bremont จึงได้ผลิตนาฬิกาข้อมือรุ่นพิเศษ ซึ่งจะบรรจุชิ้นส่วนของไม้โอ๊คและทองแดงจากเรือดั้งเดิม โดยรายได้บางส่วนจากการจำหน่ายนาฬิกาจะนำไปสนับสนุนงานซ่อมบำรุง และการอนุรักษ์เรือลำนื้เอาไว้ Giles ได้กล่าวว่า "Nelson เคยไปเยี่ยมที่โรงเรียนของผม และในฐานะเด็กชายคนหนึ่ง เขาเป็นเหมือนวีรบุรุษที่ผมปลื้มเสมอ  ผมยังจำได้ชัดเจนกับครั้งแรกที่ผมได้ไปเยี่ยมชมเรือ HMS Victory และ 2-3 ปีที่ผ่านมาผมกับ Nick ก็ได้ทำงานร่วมกับพิพิธภันท์ Fleet Air Arm Heritage ของราชนาวี  ซึ่งนั่นเองที่ทำให้เราได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับการบูรณะซ่อมแซม HMS Victory เราได้มุ่งตรงอย่างไม่ลังเลไปยังราชนาวี และปรึกษาถึงความเป็นไปได้ในการสร้างสรรค์นาฬิกาข้อมือซึ่งจะใช้ชิ้นส่วนดั้งเดิมมาจากเรือลำนื้ และไม่ใช่เพียงแค่การต้องการสร้างนาฬิกาข้อมือพิเศษเท่านั้น แต่เรายังต้องการให้มันเหมือนผลงานชิ้นโบว์แดงของเครื่องบอกเวลาจักรกลชั้นสูงอีกด้วย"

ขณะที่จิลส์ กูลด์ (Giles Gould) แห่งพิพิธภัณท์แห่งชาติราชนาวีได้กล่าวว่า "เราได้ตอบตกลงร่วมมือกับโครงการพิเศษเช่นนี้อย่างจริงจัง และเราเองก็มั่นใจมากเช่นกันว่าทั้ง HMS Victory และ Nelson จะได้รับการยกย่องเกียรติอย่างภาคภูมิ เราไม่เคยปล่อยให้ชิ้นส่วนของไม้และทองแดงดั้งเดิมที่มีความเก่าแก่เช่นนี้หลุดลอดออกไปภายนอก แต่เราคิดว่าสิ่งที่แบรนด์ Bremont กำลังสร้างขึ้นนั้น คือ การอุทิศอย่างน่าอัศจรรย์ เพราะ HMS Victory มีความหมายอย่างล้นเหลือต่อเราและกองทัพเรือ และเพราะเราเล็งเห็นว่ารายได้จากการจำหน่ายนาฬิกาข้อมือเหล่านื้จะนำไปใช้ในการอนุรักษ์เรือรบหลวงลำนื้ เพี่อช่วยเก็บรักษาไว้ให้คนรุ่นหลังได้ชื่นชมต่อไป"

นาฬิกาข้อมือรุ่น Victory นื้ ผลิตออกมา 2 รุ่นด้วยกัน คือ รุ่นทองคำชมพูและสตีล โครงสร้างตัวเรึอนเป็นแบบ Bremont Trip Tick พร้อมด้วยทองแดงดั้งเดิมแกะสลักด้วยมือ กระปุกลานด้านในเคลือบ PVD มาในขนาดตัวเรือนกำลังงามที่ 44 มิลลิเมตร หน้าปัดแบบเจาะสลักสีขาว ส่วนฝาหลังมีการสลักด้วยมือเช่นเดียวกัน มีการฝังไม้โอ๊คดั้งเดิมที่ได้จากเรือ HMS Victory สายหนังที่ไช้สำหรับรุ่นนื้คือ หนังจระเข้หลุยส์เซียน่า

ภายในนาฬิกาบรรจุกลไกโครโนกราฟ Calibre BE-83AR ใช้ Balance Glucydur แบบสามขา พร้อมด้วยเมนสปริง Nivarox 1 ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันแรงสั่นสะเทือน Incabloc ตกแต่ง ด้วยลวดลายแปร์ลาจ (Perlage) และติดตั้ง Blued Screw พร้อมโรเตอร์สตีลหรือทองแดงทำขึ้นด้วยมือ พรั่งพร้อมไปด้วยฟังก์ชั่นอย่างการแสดงวินาทีและวันที่แบบเรโทรกราด หน้าปัดย่อยแสดงการจับเวลา 30 นาที และ 12 ชั่วโมง